สมัครเว็บไซต์ Finviz เพื่อรับข่าวสารวิเคราะห์กราฟ Forex

ในการวางแผนเทรด Forex การวิเคราะห์กราฟ ดูการเคลื่อนไหวของค่าเงินทั่วโลก ช่วยให้คุณตัดสินใจเทรดเพื่อสร้างกำไรได้เป็นอย่างดี สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ คลิงที่ลิงค์
  https://finviz.com/?a=153489939

Arbitrage ใน ตลาด Forex

เมื่อพูดถึงคำนี้ ในตลาด Forex หลายคนก็คง งง "มันคืออะไรวะ" แล้วมันต้องทำยังไง มันมีความเสี่ยงไหม มีการทดสอบมานานแล้วยัง ก่อนที่ จะมีคำถามไปมากกว่านี้เราต้องไล่เรียงไปทีละอย่างครับ เรื่องแรกเราต้องดูความหมายของคำว่า Arbitrage (อาร์บิทราจ)กันก่อน Arbitrage คือการทำกำไรจากช่องว่างของราคา จาก 2 ตลาดขึ้นไป ในสินทรัพย์ ประเภทเดียวกัน ถ้าเป็นอย่างนี้นั่นหมายความว่า ถ้าหากเราเจอช่องว่างของราคาไม่ว่าในตลาดใด เราก็สามารถ arbitrage ได้ทั้งหมดเลยสิ คำตอบคือ"ใช่ครับ" แต่การหาช่องว่างให้เจอในแต่ละตลาด มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ดูสักตัวอย่างแล้วกัน สมมุติว่าผมมาเจอช่องว่างของราคาซื้อขาย ระหว่างร้านทอง 2 ร้าน สมมุติร้านที่ 1 ขายทองราคาบาทละ 20,000 แต่เมื่อเจอร้านที่ 2 รับซื้อทองบาทละ 20,100 เราก็ทำกำไรโดยซื้อทองจากร้านแรก ไปขายร้านที่ 2 ก็ได้กำไรรอบละ 100 บาท หากมีทุน 20000 บาท แต่หากมีทุน 100000 บาท ก็ได้รอบละ 500 บาท อย่างนี้เขาจึงเรียกว่าการ arbitrage แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตอนแรกครับว่า การหาช่องว่างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น การที่เราจะเจอช่องว่างตามตัวอย่างนั้นโอกาสแทบจะเป็นไปได้ยากมาก ดังนั้นหากเราเจอช่องว่างในสินทรัพย์อะไรนั่นถือว่าเป็นโอกาสอันใหญ่หลวงเลยที่เราจะพลาดไม่ได้ และแล้วผมก็เจอมันในตลาด Forex และก็เจอหลายวิธีด้วย พอพูดถึงตรงนี้เหมือนสวรรค์มาโปรดเลยพระเจ้าจอร์จมันยอดมาก เดี๋ยวจะค่อยๆแถลงไข ไปทีละ กลยุทธ์ก็แล้วกันนะครับ

Arbitrage วิธีที่ 1 ทำกำไรจากช่องว่างความเร็วของราคา ระหว่าง broker

กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์โบราณที่ผมเจอมานานแล้ว แล้วก็ มีเทรดหลายคน ก็ใช้วิธีนี้ arbitrage มานาน โบรกเกอร์นั้นจะมีโบรกเกอร์ที่มีกราฟเทีย 1 กับกราฟเทียร์ 2 ยกตัวอย่างเช่น liquidity provider บางเจ้า ก็จะมีความเร็วของราคามากกว่า โบรกเกอร์ที่ไปซื้อราคา มาอีกต่อหนึ่ง ซึ่ง บางครั้งแตกต่างกันหลายวินาทีเลยทีเดียว แต่ช่องว่างตรงนี้ก็จะมีอุปสรรคโดยสำคัญก็คือ Spread นั่นเอง นั่นหมายความว่า ต่อให้เราเจอโบรคที่กราฟช้ากว่าของอีกโบรคหนึ่ง ก็ยังติดปัญหาเรื่อง Spread อยู่ดี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ เพราะหากเป็นช่วงเวลาข่าว การรู้ล่วงหน้า 3 - 4 วิจะทำให้เราทำกำไรได้มากกว่า spread แน่นอน ดังนั้นเมื่อเราเจอช่องว่างตรงนี้ระหว่างโบรกเกอร์ แทบจะเป็นการถล่มโบรคเกอร์นั้นให้เจ้งกันได้เลยทีเดียว ในอดีตสามารถเจอช่องว่างแบบนี้ได้ไม่ยากแต่ปัจจุบันยากมากที่จะเจอและแถมยังมีโอกาสถูกตรวจจับได้ง่ายดังนั้นวิธีนี้ในปัจจุบันก็แทบจะ ทำได้ยากแล้ว เพราะมีการป้องกันจากโบรกเกอร์กันสุดฤทธิ์ เอาเป็นว่าถ้าเจอปุ๊บแบนทันที

Arbitrage วิธีที่ 2 การทำกำไรจากช่องว่าง ของดอกเบี้ย(Carry Trade)

วิธีนี้จะถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Carry Trade วิธีนี้ง่ายมาก แต่ปัจจุบันยังไม่ถูกใช้โดยแพร่หลาย เพราะปัญหาหลักหลักก็คือ หาโบรกเกอร์ทำได้ยาก แต่ปัจจุบันผมก็หาเจอแล้วก็ทำเงินได้จากวิธีนี้เป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียวและพัฒนาระบบให้สามารถทำกำไรได้มากถึง 8 ถึง 9 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน เลยทีเดียวโดยความเสี่ยงต่ำมากเพียงแค่ 0.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ เพื่อให้เกิดความเป็นกลางในบทความนี้ผมจะขอไม่เขียนถึงโบรกเกอร์ใดๆเลยครับเพราะมันจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตามกาลเวลา ถ้าท่านใดอยากรู้จริงๆก็ติดต่อกันมาหลังไมค์ได้ครับ โดยวิธีนี้ ทำได้ง่ายๆดังนี้ก็คือ เราหาโบรกเกอร์ และค่าเงินที่จ่าย Swap สูงสุด และก็นำโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่า Swap เพื่อทำการ hedging เราก็จะได้ส่วนต่างค่า swap ทุกวันโดย มีความเสี่ยงน้อยมาก ยกตัวอย่างเช่น Sell usd/mxn สมมุติได้ swap วันละ 30$ ในโบรคเกอร์ A และ buy ในโบรกเกอร์ B ที่ไม่มีค่า Swap เพื่อ hedge ไว้ป้องกันความเสี่ยง เพียงเท่านี้เราก็จะได้ กำไรวันละ 30$ ทุกวัน(เสาร์-อาทิตย์ตลาดปิดแต่จะมาจ่ายชดเชยให้วันพุธ) เดือนนึงก็จะได้ 8 ถึง 900 เหรียญหลังจากหัก spread และหน้าที่ของเรา แค่ต้องมานั่ง RE Balance ใหม่ เพื่อประคอง Order ไม่ให้ถูกปิดไป และก็จะได้กำไรไปเรื่อยๆ จนกว่าไม่สามารถ RE Balanceได้แล้ว หรือต่อเมื่ออยากถอนกำไร (RE Balance คือการย้ายเงินจากพอร์ตที่ Order บวก ไปเติม พอตที่ Order กำลังติดลบอยู่ เพื่อให้ equity มัน Balance กัน)

Arbitrage วิธีที่ 3 Triangular Hedging

วิธีนี้ เป็นวิธีที่ ผมใช้แล้วสามารถทำกำไรได้สูงสุด เทียบเท่ากับการเทรดแบบปกติเลยทีเดียวแต่ความเสี่ยงต่ำกว่ามาก แต่ระบบนี้ ไม่ใช่วิธีการใหม่ เป็นวิธีการที่มีการพูดถึงกันมานานแล้ว แต่ไม่มีใครพัฒนาระบบเพื่อนำมาใช้ทำกำไรได้อย่างจริงจังเนื่องจากมีปัญหาหลักหลัก อยู่ 4 สาเหตุ

1. โบรกเกอร์ B-Book ไม่อนุญาตให้ทำ และการ หาโบรกเกอร์ A Book เจอนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโบรกเกอร์ ร้อยละ 99 เปอร์เซ็นต์ในตลาดเป็น B Book ทั้งหมด แต่ ณ.ตอนนี้โบรก UAG A-Book 100%สามารถทำได้แล้ว
เปิดบัญชีกับ โบรก UAG A-Book 100%คลิ๊ก
http://signup.uagtrade.com/tanatgold

2. ไม่ทราบชุด arbitrage triangular ว่ามีชุดใดบ้างที่สามารถนำมาทำกำไรได้

3. ไม่ทราบ Money management ที่ชัดเจน จึงยากที่จะประเมินความเสี่ยง และไม่รู้ว่าจะต้องเก็บกำไรเท่าไหร่ถึงจะคุ้มกับความเสี่ยงนั้น

4. ค่า Swap ติดลบ ทำให้ หากค้าง Order ในพอร์ตนานอาจจะทำให้ขาดทุนได้

ด้วยสาเหตุ ข้างต้น จึงทำให้ระบบนี้ ไม่ ค่อยมีนักลงทุนนำมาพัฒนาต่อ แต่หลังจากที่ผมได้เจอโบรกเกอร์ a book และฟรี swap ด้วย ผมจึงนำระบบนี้มาพัฒนาอย่างจริงจัง จนทำให้เจอชุดที่สามารถทำ Arbitrage ได้ถึง
ชุด และกำลังทดสอบเพิ่มเติมอีก 25 ชุด

จากภาพหลายท่านอาจจะงงว่ามันหมายความว่าอย่างไร เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังครับ

เริ่มต้นเราต้องสมมุติค่าเงินมา 3 ค่าก่อน ซึ่งผมจะใช้ ค่าเงิน EUR GBP และ USD เมื่อได้ค่าเงินมา 3คู่เงินแล้ว เราก็นำมาจับเป็นคู่เงินที่โบรกเกอร์มีให้เทรด ก็จะได้ EURUSD EURGBP และ GBPUSD ได้ 3 คู่เงินตามนี้ไม่มากไปกว่านี้ และหลักการ ก็คือนำ 3 ค่าเงินนี้มา hedging กัน(hedging คือ การป้องกันการขาดทุน หรือล็อคกำไรเอาไว้โดยการสั่งคำสั่งซื้อขายที่ตรงกันข้ามกับคำสั่งปัจจุบัน) โดย สั่งคำสั่งซื้อขายดังนี้

Buy EURUSD/Sell EURGBP/Sell GBPUSD

Buy EURUSD Sell EURGBP จะเป็นการ hedging ค่าเงิน EUR ไว้ แต่ยังมีค่าเงิน USD และ GBP ที่ยังไม่ถูก hedging ดังนั้นจึงต้อง sell GBPUSD เพื่อเป็น hedging ค่าเงิน USD และค่าเงิน GBP ไว้ด้วย ดังนั้น ถ้าสั่งตามตัวอย่างก็จะเป็นการล็อคค่าเงิน เอาไว้ เพื่อไม่ให้ มันมีกำไรหรือขาดทุน แต่เนื่องจากตลาดมันมีช่องว่าง ระหว่างอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อเราสั่งตามนี้มันก็เลยเกิดการแกว่ง ของผลรวม ทั้ง 3 Order จึงเกิดเป็นช่องว่าง ให้เราสามารถ ทำกำไรได้ ยกตัวอย่าง เช่น

Buy 1.0 EURUSD/Sell 1.0 EURGBP/Sell 1.0 GBPUSD

เมื่อผลรวมเป็น +200$ เราก็ปิดทำกำไร แต่หาก ติดลบ เราก็รอ จนกว่ามันเป็นบวก แต่ประเด็นที่ตามมาก็คือ แล้วมันจะติดลบสูงสุดได้เท่าไหร่ และสั่งนานเท่าไหร่ถึงจะบวก ปัญหาตรงนี้เป็นปัญหาของคนส่วนใหญ่เลยเมื่อไม่ทราบ 2 ข้อนี้ก็เลยไม่สามารถนำช่องว่างตรงนี้มาทำกำไรได้ แล้วถ้าเราทราบล่ะ เช่น ถ้าเราสั่งตามตัวอย่าง แล้วเรา ทราบว่า มันติดลบสูงสุดแค่ 1000$ เราก็เปิดพอร์ต 2000$ แค่นี้ เราก็สามารถรอจนกว่ามันกำไรได้ติดลบก็ลบไป เพราะมันไม่ล้างพอร์ตแน่ๆจริงไหมครับ โดยเฉพาะถ้าฟรี swap ด้วย เข้าตำรา"บวกก็ปิดติดลบก็รอ ไม่พอก็เติม" เพราะคำว่าช่องว่างของราคา นั้นมันจะกลับมาแคบลงและกว้างขึ้นได้ตลอดดังนั้นมันกว้างได้มันก็แคบได้ ใช่ไหมครับ เมื่อเรารู้อย่างนี้ เราก็ทำกำไรจากเวลามันวิ่งจากแคบไปกว้างและมันวิ่งจากกว้างไปแคบ แล้วจะรู้ได้ไง มันจะวิ่งจากแคบไปกว้างจากว่างไปแคบได้อย่างไร ก็ต้องเข้าใจพื้นฐานตรงนี้ก่อนว่าในการ arbitrage แบบ triangular มันจะ มีชุดคำสั่ง ที่ผลรวมวิ่งตรงข้ามกัน คือ

Buy 1.0 EURUSD/Sell 1.0 EURGBP/Sell 1.0 GBPUSD

และ

Sell 1.0 EURUSD/Buy 1.0 EURGBP/Buy 1.0 GBPUSD

โดย 2 ชุดนี้ ถ้าสั่งแยกคนละพอร์ต ถ้าหากชุดแรก +1000 ชุดที่ 2 ก็จะลบ 1,000 คือผลรวม กำไรขาดทุนจะวิ่งตรงข้ามกัน ดังนั้น Arbitrage 1 ชุดจึงสั่งได้ 2 แบบ ซึ่งเป็นวิธีการ ที่ทำให้เราสามารถทำกำไรจากแคบไปกว้างหรือกว้างไปแคบได้ และ arbitrage ที่ผมทดสอบมาเรียบร้อยแล้วณปัจจุบันนี้ก็คือมีทั้งหมด 21 ชุด ซึ่งเมื่อสั่งได้ 2 แบบ จึง สามารถ สั่งได้ถึง 42 แบบด้วยกัน ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ แตกต่างกันออกไป แต่จริงๆ ชุด arbitrage มีมากกว่านี้ซึ่งผมกำลังทดสอบเพิ่มอีก 25 ชุด

จากตัวอย่าง ข้างต้น จะทำให้เรารู้แล้วว่า จะทำกำไรจากระบบ arbitrage ใน forex อย่างไร เหลือข้อมูลสุดท้ายก็คือกรอบของช่องว่าง และช่องว่าง ของ Order ชุดนั้นๆที่เกิดขึ้นแล้วว่าเท่าไหร่ เพื่อเอามาเลือกได้ว่าเราจะสั่งชุดไหน และเอามากำหนด Money Management และประเมินความเสี่ยงได้ ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยาก ที่เราจะจับได้เอง ดังนั้นผมจึงทำเป็นโปรแกรม เพื่อไปจับข้อมูล 2 อย่างนี้มาเพื่อประเมิน ให้ได้ว่าจะเลือกสั่งชุดไหนและมีความเสี่ยงเท่าไหร่โดย เมื่อไปจับมาแล้วจึงได้ข้อมูลตามภาพในในกระทู้ข้างล่าง

จากภาพในกระทู้ข้างล่างนั้นเป็นโปรแกรมที่ผม และทีมงานสร้างขึ้นมา เพื่อให้มันไปจับ ช่องว่างของราคา โดยที่คนนั้น จะทำแบบนี้ได้ยาก โดยโปรแกรมจะไปจับช่องว่างมาได้ 2 รูปแบบคือ 1 ช่องว่างสูงสุดที่มีโอกาสเป็นไปได้เกิดจากการทดสอบและ Back Test และส่วนที่ 2 จะเป็นช่องว่าง ที่เกิดขึ้นแล้วณ ปัจจุบัน เมื่อมีข้อมูลสองอย่างนี้ก็สามารถเลือกชุด Arbitrage เพื่อทำกำไรและสามารถประเมินความเสี่ยงได้ง่ายเช่น

ชุด EURUSD/GBPUSD/EURGBP SBB(sell buy buy) -5000/6000 หมายความว่า หากเราสั่ง

Sell EURUSD/buy GBPUSD/buy EURGBP ปัจจุบัน 5000 จุด แต่ช่องว่างสูงสุดที่มีโอกาสเป็นไปได้คือ 6000 จุด ดังนั้นหากเราสั่ง sell buy buy

ชุดนี้ ก็มีโอกาส ติดลบได้เพิ่มอีกแค่ 1000 จุด แต่มีโอกาสบวกถึง 5000 จุดเลย ดังนั้นการเลือกสั่ง ชุดนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีมีโอกาสกำไรสูงและมีความเสี่ยงน้อย

เห็นไหมครับเมื่อมีข้อมูล อย่างนี้แล้วการ Arbitrage Trigular ใน Forex นั้น เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันทีซึ่ง ข้อมูลตรงนี้ผมส่งให้คนในกลุ่มที่เรียนคอส arbitrage ฟรีทุกวันครับ เพราะถ้าส่งให้บุคคลทั่วไปนำไปใช้ผิดๆถูกๆถูกๆก็เกรงว่า จะทำให้ขาดทุนซะมากกว่ากำไร
ขอขอบคุณ การเรียนการสอนจาก อ.ปิ๊ป ครับ
เปิดบัญชีต่างๆกับ โบรก UAG โบรก A-Book 100%
คลิ๊ก
http://signup.uagtrade.com/tanatgold

เปิดบัญชีกับ UAG เพื่อทำ Arbitrage 3 คู่เงินแนะนำเป็นบัญชี UAG SELF TRADE PRO เป็นบัญชีไม่มีค่าสวอปครับ

เปิดบัญชีกับ UAG ทำ Carry Trade แนะนำเป็นบัญชี UAG SWAP PRO พอร์ตที่มีค่า สวอป และบัญชี UAG SELF TRADE PRO พอร์ตที่ไม่มีค่าสวอป วิธีเปิดออร์เดอร์เปิด BUY ในพอร์ตที่ไม่มีค่าสวอป(UAG SELF TRADE PRO) และเปิด SELL ในพอร์ตที่มีค่าสวอป(UAG SWAP PRO)นั้นเอง สามารถ Rebalance ข้าม IB ในบัญชีเดียวกันได้เลยไม่ผิดกฏ สะดวกรวดเร็ว ไม่เสียเวลา ไม่เสียค่าอัตราแลกเปลื่ยนเงินกลับไปกลับมา คู่เงินที่แนะนำ คือ EUR TRY ครับ
เปิดบัญชีกับโบรก UAG A-BOOK 100% คลิ๊ก

http://signup.uagtrade.com/tanatgold

ที่มาเพจ : Trader Chay FX.CNX.

เทรดบนภาพรายวัน คืออะไร

เชื่อไหมว่าเทรดเดอร์มืออาชีพหลายๆ คนเขาไม่ได้มานั่งเฝ้าจอทั้งวัน เขาเพียงแค่เชคกราฟวันละ 1-2 ครั้ง ส่วนมากก็เป็นช่วงเปิด และปิดของวัน แค่นั้น ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถเทรดได้กำไรอย่างต่อเนื่อง เพราะอะไรเขาเหล่านั้นถึงทำอย่างนี้ได้รู้ไหมครับ … ก็เพราะว่าเขาเทรดบน Time frame “Day” นั่นเองครับ
เป็น Time frame ที่เทรดง่าย และมีประสิทธิภาพ เพราะว่า
1. มีเวลาการวิเคราะห์เยอะ
2. ไม่มีถูกอารมณ์ดึงไปจากการแกว่งตัวระหว่างวัน
3. เป็นภาพที่สะท้อนพฤติกรรมของราคาที่ Make sense ที่สุด
4. โดยค่าธรรมเนียมน้อยกว่าการเทรดในภาพสั้น จำพวกราย 5 นาที หรือ 10 นาที
5. ใช้เวลาในการเฝ้าจอน้อย มีเวลาไปวางแผน สร้างกลยุทธ์เทรดต่างๆ มากมาย

ซึ่งข้อดีต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำให้เทรดเดอร์เทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังบริหารเวลาในการใช้ชีวิตได้ดีอีกด้วย อันนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอาชีพเทรดเดอร์ ตลาด Forex เปิด 24 ชั่วโมง เราไม่มีทางเฝ้าจอได้ตลอดได้ทั้งวันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นเลยที่ต้องไปทำอย่างนั้น เสียทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต
เทรดเดอร์มือใหม่มักจะพยายามลงไปเทรด Time frame เล็ก อย่าง 5 นาที หรือ 10 นาที คิดว่าการเทรดบ่อยๆจะสร้างกำไรให้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด … ยิ่งย่อย Time frame ลงไป กรอบการแกว่งตัวก็จะลดลง ช่วงให้เราเก็บกำไรก็จะน้อยลงตามเช่นกัน … อีกทั้งการเทรดภาพสั้นที่ต้องอาศัยทักษะการตัดสินใจที่รวดเร็ว และแม่นยำ มีเทรดเดอร์เพียงน้อยคนที่จะมีสกิลนี้ ซึ่งต้องเป็นระดับมืออาชีพเท่านั้นถึงจะลงไปเล่นในเกมส์นี้ได้ เทรดเดอร์ธรรมดาอย่างเราๆ ไม่จำเป็นต้องลงไปแข่งในเกมส์ที่โอกาสชนะน้อย ให้เล่นในเกมส์ที่โอกาสชนะเรามีมากดีกว่า แค่นั้น .... เพราะผลลัพธ์สุดท้ายแล้วมันคือ “กำไร” เหมือนกัน

ทีมงาน : forexthai.in.th

โบรคเกอร์ A Book ส่งคำสั่งไปยังตลาดโดยตรง https://traderran.blogspot.com/2018/04/uag.html

โบรคเกอร์ที่มีความมั่นคงสูง https://traderran.blogspot.com/2018/04/blog-post.html

โบรคเกอร์ที่มีค่า Spread ต่ำ https://traderran.blogspot.com/2018/04/spread.html

บัญชี ECN คืออะไร

ECN (Electronic Communication Network) คือเครือข่ายการซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงตัวกลางเมื่อทำธุรกรรมบนตลาดฟอเร็กซ์และมอบเงื่อนไขที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้สำหรับแต่ละคำสั่งของคุณ พร้อมด้วยการดำเนินการที่รวดเร็ว สเปรดต่ำ และราคาดีที่สุด

บัญชี ECN หมายถึงบัญชีที่ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อคำสั่งซื้อขาย เข้ากับตลาดใหญ่โดยตรง ส่งผลให้การส่งคำสั่งซื้อขายสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการทำกำไรมากกว่าบัญชีประเภทอื่น ๆ

ข้อดีของบัญชี ECN

1.ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0

บัญชี ECN  ค่าสเปรดเริ่มต้นจาก 0 ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสในการทำเงินได้มากกว่า และลดความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการแกว่งตัวของค่าสเปรดได้มากกว่าแบบทั่ว ๆ ไป

2.รับข่าวแรง ๆได้

เมื่อมีช่าวแรงๆ ค่าเปรดก็ยังคงเป็น 0 อยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องข่าวแรง 

3.ความเร็วของเซิฟเวอร์เร็วมาก

ความเร็วของระบบเซิฟเวอร์ที่เร็วมากช่วยให้เราสามารถเข้าไปจับกับราคาต่าง ๆ ในตลาดได้อย่างรวดเร็ว แถมได้ราคาที่ดีที่สุด และถูกที่สุดในขณะนั้น อีกทั้งการซื้อขายก็เป็นการเทรดร่วมกับผู้คนจากทั่วโลกด้วย ดังนั้นมันจึงง่ายมากในการเทรด

ข้อจำกัดของการเลือกใช้บัญชีแบบ ECN

1.ใช้ยอดเงินในการเปิดบัญชีสูง

 ECN ใช้เงินฝากค่อนข้างสูงมาก เช่น 1,000 เหรียญ (36,000 บาท) โดยประมาณ ซึ่งส่งผลให้บัญชีนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีเงินฝากเยอะมากในบัญชีนั่นเอง

2.ทุกครั้งที่มีการเทรดจะมีการหักค่าคอมมิชชั่น

แม้ว่าระบบบัญชี ECN ในหลาย ๆ ที่จะไม่มีการคิดค่าสเปรด หรือว่าเริ่มต้นค่านี้จาก 0 ก็ตาม แต่ทุก ๆ การเทรดนั้น คุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับทางโบรกเกอร์ด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าหากเป็นการเทรดแบบเล่น ๆ รับรองว่าคุณนั้นจะไม่สามารถทำเงินและทำกำไรได้จากตลาดแห่งนี้อย่างแน่นอน

สรุปก็คือ การเลือกประเภทของบัญชีกับการเทรด forex นั้น ให้เลือกบัญชีที่มีความสอดคล้อง เหมาะสมกับบริบทของการเทรดของเราเป็นสำคัญ ไม่อย่างนั้นแล้วแม้เราเลือกบัญชีเป็นแบบ ECN แต่บริบทการเทรดของเราไม่สอดคล้อง ก็อาจทำให้เราขาดทุนได้ง่าย ๆ สู้ไปเลือกเปิดบัญชี ธรรมดาซึ่งอาจปลอดภัยกว่า

 เลือกเปิดบัญชีกับโบรคเกอร์ที่มีความมั่นคงสูง

https://traderran.blogspot.com/2018/04/blog-post.html

ข้อผิดพลาดในการเทรด Pin bar

เทรดเดอร์สาย Price action มักใช้แท่งเทียนรูปแบบ Pin bar ในการเทรดเป็นหลัก เนื่องจากเป็นรูปแบบที่เรียบง่าย และทรงประสิทธิภาพในการเทรด แต่มักเห็นข้อผิดพลาดในการใช้รูปแบบ Pin bar อยู่บ่อยครั้ง 

เทรดเดอร์ต้องพิจารณาเลยคือ ทิศทางของแนวโน้ม เราไม่ควรสวนเทรน อาศัยข้อได้เปรียบของการเทรดในช่วงที่ราคาเป็นแนวโน้ม เพื่อคอยเป็นแรงส่งให้ราคาปรับตัวไปในทิศทางที่เราคาดการณ์

การใช้ Pin bar ในการเทรดนั้นควรอยู่ฝั่งเดียวกับแนวโน้มหลัก ไม่ควรสวนเทรน

– แนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่เจอ Bearish pin bar ก็ไม่ควรจะวาง Order Sell

– ถ้าแนวโน้มเป็นขาลง แต่เจอ Bullish pin bar ก็ไม่ควรจะวาง Order Buy

– แนวโน้มเป็นขาขึ้น เจอ Bullish pin bar วาง Order Buy                                                                    – แนวโน้มเป็นาขาลง เจอ Bearish pin bar วาง Order Sell 

 ข้อผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งของเทรดเดอร์ก็คือ ไม่ใช้กราฟรายวันหรือ D1 (หรือใช้ไม่เป็นก็แล้วแต่) ถ้าตราบใดที่ยังเทรดในภาพรายวันไม่ได้ ก็ไม่มีทางที่จะลงไปเทรดภาพที่เล็กลงไปอีกได้ เนื่องจากภาพรายวันนั้นเป็นพื้นฐานของการเทรดที่ดีที่สุดแล้ว

เหตุผลก็เพราะว่าในภาพที่เล็กลงไป เช่น  M5  M15 นั้นจะเจอ Noise หรือสัญญาณหลอกบ่อยมาก เทรดเดอร์ที่ขาดประสบการณ์หรือทักษะที่มากพอก็จะโดนในส่วนตรงนั้นเล่นงานได้ง่ายดาย

การใช้ภาพรายวันนั้นให้ความหมายที่ดีกว่า มีเวลาคิดและไตร่ตรองมากกว่า อีกทั้งสะท้อนพฤติกรรมของราคาได้อย่างมีนัยสำคัญ เทรดเดอร์ควรโฟกัสตรงนี้ให้มาก

ไม่รอสัญญาณร่วม

Pin bar จะเป็นสัญญาณเทรดที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก ถ้าเกิดในช่วงที่ถูกที่และถูกเวลา ซึ่งการใช้ Pin bar ร่วมกับสัญญาณอื่นๆ อย่าง แนวรับ แนวต้าน , เทรน ,  จะช่วยให้โอกาสการชนะในการเทรดนั้นสูงอย่างมาก

http://signup.uagtrade.com/tanatgold

ที่มา : forexthai.in.th

Arbitrage (อาร์บิทราจ)

การเทรดด้วยระบบ Arbitrage เป็นการเทรดที่ไม่มีความเสี่ยง หรือมีความเสี่ยงที่น้อยมาก

Triangular Arbitrage (แทรงกูร่า อาร์บิทราจ) คือการเทรดคู่เงินในรูปแบบสามเหลี่ยม  เช่นคู่สกุลเงินหนึ่ง Sell  อีกสองคู่สกุลเงิน Buy  รวมเป็น 3 คู่เงิน  ( Sell – Buy – Buy )  ( Sell – Buy – Sell ) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจังหวะ โอกาส และการจับคู่เงิน

จับคู่กันได้ 28 คู่ เราสามารถเทรดได้ทุกคู่เงิน แต่ในที่นี้แนะนำให้เล่นเพียงคู่เงินหลัก 7 คู่เท่านั้น เหตุผลคือ Spread ต่ำ สามารถทำกำไรในระยะสั้นได้เร็วกว่า และเป็นที่นิยมของ 
นักเทรดทั่วไป

EUR   จะอยู่หน้าทุกคู่เงิน ไม่อยู่หลังคู่เงินใด
GBP   อยู่หน้า 6 คู่เงิน  อยู่หลัง 1 คู่เงิน

AUD  อยู่หน้า 5 คู่เงิน  อยู่หลัง 2 คู่เงิน

NZD   อยู่หน้า 4 คู่เงิน  อยู่หลัง 3 คู่เงิน

USD   อยู่หน้า 3 คู่เงิน  อยู่หลัง 4  คู่เงิน

CAD   อยู่หน้า 2  คู่เงิน อยู่หลัง 5 คู่เงิน

CHF   อยู่หน้า 1 คู่เงิน   อยู่หลัง 6 คู่เงิน

JPY    อยู่หลังทุกคู่เงิน ไม่เคยอยู่หน้าคู่เงินใด

แถบเหลืองคือสกุลเงินหลัก

ด้วยความปราถนาดี Trader RAN 

ID:Line 0621178656
https://traderran.blogspot.com/2018/04/spread.html

โบรคเกอร์ Justforex

Justforex บริษัทแม่คือ IPC TRade Inc. ก่อตั้งเมื่อปี 2012 จดทะเบียนกับ FSC Belize (license no. IFSC/60/241/TS/17 ลำดับที่ 48) เว็ปไซต์มี 12 ภาษาและที่สำคัญมีภาษาไทยด้วย (ยังไม่มีซัพพอตภาษาไทย แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ Support ที่เป็นคนไทยได้ที่ Line ID: jandiaon)

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ครบเครื่องไม่มีข้อห้ามใดๆ สามารถใช้ EA ได้ทุกรูปแบบ และเทรดได้ทุกรูปแบบเช่นกัน เทรดสั้น เทรดยาว หรือจะ Hedging ก็ได้ มีเลเวอเรจสูงสุดที่ 1:3000 มีโบนัสเงินฝากสองเท่า เพื่อเพิ่มโอกาสซื้อขายได้อีกเป็นเท่าตัว กำไรที่ได้จากการเทรดถอนได้ตลอดเวลา (และที่สำคัญถอนกำไรไม่ส่งผลต่อการยกเลิกโบนัส)

ความมั่นคง      ★★★    อยู่ภายใต้การควบคุมของ FSC of Belize
สเปรด          ★★★★  EURUSD 0.1, GBPUSD 0.7, USDJPY 0.4, XAUUSD 2.0
การฝากถอน   ★★       ฝากถอนผ่านเดบิท เครดิต Neteller , Skrill
คุณภาพกราฟ ★★★★  ไม่โกงกราฟ ไม่ดึงใส้
โปรโมชั่น       ★★★     โบนัสเงินฝากสูงสุด 100%
บริการลูกค้า   ★★★     ไม่มี Support หน้าเว็บคนไทยแต่มีผู้ดูแลบัญชีเป็นคนไทย                                                 ID Line : jandiaon

ข้อดี Justforex

• เลเวอเรจสูงสุด 1:3000
• มีโบนัส 100% เมื่อฝากเงินเข้าพอร์ต
• มีโปรโมชัน Lucky Friday
• ฝากเงินได้หลายช่องทาง
• มี VPS บริการ
• สเปรต 0.0 บัญชี ECN
• สามารถเทรด Bitcoin(BTC)ได้
• สามารถใช้ EA ได้ทุกรูปแบบ
• ถอนกำไรไม่ส่งผลต่อการยกเลิกโบนัส
• มีเว็ปไซต์เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย Justforex

• ไม่มี Support หน้าเว็ปคนไทยแต่มีผู้ดูแลบัญชีเป็นคนไทยสามารถติดต่อได้ที่ Line ID: jandiaon

การฝากถอนเงิน Justforex

การฝากถอนมีหลายช่องทางมาก แต่แนะนำสำหรับคนไทย คือฝากเงินผ่านเอเจ้นที่อยู่ในไทย หรือฝากถอนผ่านบัตรเดบิต/เครดิต หรือแนะนำอีกทางเลือกก็คือให้สมัคร Neteller หรือ Skrill ไว้ เพราะว่าสองค่ายนี้สามารถฝากถอนได้ทุกโบรก วิธีสมัคร Neteller | วิธีสมัคร Skrill

ประเภทบัญชี Justforex

ประเภทบัญชีมีทั้งหมด 4 แบบ คือ Cent, Mini, Standard และ ECN Zero ทุกประเภทบัญชีเป็น NDD แบบ STP แนะนำให้เล่นบัญชี Standard หรือ ECN Zero เพราะมีคู่เงินให้เลือกเล่นมากกว่าและสเปรตน้อยกว่า

โปรโมชั่น Justforex

1. รับโบนัสเงินฝากสองเท่า เพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อขายได้มากขึ้น เมื่อฝากเงิน 100$ ขึ้นไป

เปิดบัญชี : 

https://justforex.com/th/landing/easy-to-start-with-justforex?ref=165710

Forex คืออะไร

   Forex ย่อมาจากคำว่า "Foreign Exchange " เรียกย่อ ๆ ว่า FX แปลเป็นไทยก็คือ ตลาดซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ การลงทุน Forex เป็นการเก็งกำไรในค่าเงิน ผ่านการซื้อ-ขาย คู่สกุลเงินต่าง ๆ เช่น EUR/USD, USD/JPY หรือ GBP/USD เป็นต้น ซึ่งเราจะได้กำไรหรือขาดทุน ก็จะมาจากส่วนต่างของสกุลนั้น ๆ ที่เราทำการซื้อ-ขายนั่นเอง

        ตลาดฟอเร็กซ์ เป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกปริมาณการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์แต่ละวันโดยประมาณอยู่ที่ $5.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากบุคคลเพียงคนเดียวแต่เกิดจากโบรกเกอร์ของ interbank ในตลาดแลกเปลี่ยนอัตราระหว่างประเทศ interbank เป็นธนาคารที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มเปิดตลาดในตอนเช้าของประเทศออสเตรเลียและปิดตลาดตามเวลาของสหรัฐอเมริกา นักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์อาศัยปัจจัยในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างช่วงเวลาในการวิเคราะห์และตัดสินใจทำการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์

       ฟอเร็กซ์ในสมัยก่อนถูกใช้และควบคุมโดยนักลงทุนในสถาบันการเงินใหญ่ ๆ พวกเขาใช้ฟอเร็กซ์เพื่อการลงทุนด้วยปริมาณเงินที่มีจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันไม่ใช่มีเพียงพวกเขาที่สามารถเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์ได้อีกต่อไปไม่ว่าจะเป็นักลงทุนรายใหญ่หรือรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์ได้ การทำธุรกรรม การลงความเสี่ยงในการลงทุนหรือแม้กระทั่งการเพิ่มวอลลุ่มในการลงทุนสามารถทำได้ทั้งหมดในตลาดฟอเร็กซ์

      การเติบโตขึ้นของตลาดฟอเร็กซ์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนหันมาสนใจในการเทรดฟอเร็กซ์มากขึ้น การให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์มีมากขึ้นทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักตลาดนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่านักลงทุนบางคนไม่ต้องการที่จะลงทุนด้วยตัวเอง เขาสามารถนำเงินดังกล่าวไปฝากให้กับผู้เชียวชาญทำการลงทุนให้กับพวกเขาได้ โดยสรุปแล้วข้อดีสำหรับการเป็นเทรดเดอร์หรือนักลงทุนในระยะสั้นคือ:

- เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ครอบคลุมตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ไปจนถึงคืนวันศุกร์

- สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง Buy  Sell

เลือกโบรคเกอร์เพื่อทดลองเทรดด้วยบัญชี Demo
(บัญชีทดลอง) https://traderran.blogspot.com/2018/04/spread.html

โบรคเกอร์ที่มีความมั่นคงสูง

  

 1 โบรคเกอร์ UAG

Stability ความมั่นคง ★★★★

UAG Trade ก่อตั้งและมีออฟฟิตอยู่ที่ Vincent and The Grenadines ตั้งอยู่ที่ CORPORATE REGISTERED OFFICE Suite 305, Griffith Corporate Center, P.O. Box 1510, Beachmont, Kingstown, St. Vincent and The Grenadines UAG อยู่ภายใต้การควบคุณของ IBC 23097 โบรกเกอร์ UAG เป็นโบรกเกอร์ A Book 100% ก็คือออเดอร์ทั้งหมดจะส่งเข้าตลาด ไม่รับกินเอง และสามารถ ตรวจสอบออเดอร์ของเราได้โดยการเขียนอีเมลไปขอดู report ว่าออเดอร์ของเราถูกส่งไปยังที่ใด บัญชีเทรดทุกบัญชีจะไม่มีค่าสวอป และจุดเด็นอีกอย่างของ UAG ก็คือรับ Feed มาจาก Finotech FCA เลขที่ FCA470392 ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการเทรดของยุโรป ขอเสียของ UAG คือมี Leverage ให้ค่อนข้างน้อย สูงสุดแค่ 1:200

เปิดบัญชี UAG  http://signup.uagtrade.com/tanatgold

รีวิวโบรคเกอร์ UAG   https://traderran.blogspot.com/2018/04/uag.html

2 โบรคเกอร์ ICmarkets

Stability ความมั่นคง ★★★★

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งขึ้นที่นครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2007 ให้บริการการค้าในตลาด Forex , Futuresและ CFD บริษัทจดทะเบียนในชื่อ International Capital Markets Pty Ltd., Australia ,Regulation: ASIC (license # 335692) ซึ่งปัจจุบันเป็นโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นโบรกเกอร์ที่เติบโตเร็วตัดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก

เป็นโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องและความมั่นคงสูง Spread น้อย การฝากเงินเข้าต่ำสุด 200$ ขึ้นไป มี Signal Trader จากผู้เชี่ยวชาญ โบรกเกอร์ IC Markets มีจุดเด่นอยู่ที่บัญชี True ECN เพราะสเปรต 0 pips และก็มีค่าคอมน้อยมากเมื่อเทียบกับโบรกอื่นๆ ในการออกคำสั่งซื้อขายแต่ล่ะครั้งเร็วและไม่มี re-quotes เป็นโบรกเกอร์ที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ของเว็บไซต์ forexpeacearmy(อิงตามความคิดเห็นของลูกค้าแต่ล่ะราย)

เปิดบัญชี ICmarkets http://icmarkets.com/?camp=13989

รีวิวโบรคเกอร์ ICmarkets https://traderran.blogspot.com/2018/04/icmarkets.html

 3 โบรคเกอร์ Pepperstone

Stability ความมั่นคง ★★★★

Pepperstone ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยทีมงานผู้บริหารที่มีประสบการณ์หลายปีในวงการฟอเร็กซ์ บริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงมีสำนักงานย่อยอยู่ที่เมืองดัลลัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน Pepperstone ได้รับใบอนุญาต Australian Financial Services License AFSL #414530 ซึ่งมี Australian Securities and Investment Commission (ASIC) เป็นผู้ออกใบอนุญาตและกำกับดูแล Pepperstone ได้แยกบัญชีของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท ซึ่งมีการนำเงินของลูกค้าแยกเก็บไว้ในสถาบันการเงินต่าง ๆ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงธนาคารแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย (National Australia Bank) ซึ่งมีความมั่นคงสูง

เปิดบัญชี Pepperstone https://pepperstone.com/th/?a_aid=usa7895652

รีวิวโบรคเกอร์ Pepperstone https://traderran.blogspot.com/2018/04/pepperstone.html

โบรคเกอร์ Thedollarfx

Thedollarfx

Service ฝ่ายบริการลูกค้า ★★★★

Promotion โปรโมชั่น ★★★★

Spead สเปรต ★★★

Stability ความมั่นคง ★★★★

Trainning โปรแกรมฝึกอบรม ★★★★

Deposit - Withdraw การฝากถอน ★★★

System quality คุณภาพกราฟ ★★★★

จุดเด่นของโบรกเกอร์ thedollarfx

• 1.เป็นโบรกเกอร์ที่สนับสนุนภาษาไทยเต็มรูปแบบ 100%’
• 2.เปิดบัญชีง่ายมาก
• 3.มีระบบ EA ที่สามารถใช้งานได้จริง และทำกำไรได้จริง 100%
• 4.มีระบบ IB ที่ทันสมัยและสร้างรายได้แบบหลายชั้น
• 5.โบรกเกอร์ใช้โปรแกรม cTrader ที่ง่ายในการเทรด
• 6.ไม่มีรีโควท 100% ทำให้คุณสามารถปิดกำไรได้ทันทีที่ต้องการ
• 7.มีระบบฝึกสอนอบรมฟรี คุ้มค่ามาก เพราะสามารถนำมาใช้ในการเทรด forex จริงได้
• 8.ถอนเงินที่นี่ กำไรทันทีดอลล่าร์ละ 2 บาท
• 9.ใช้โปรแกรม cTrader ในการเทรด forex

ประเภทบัญชีของ thedollarfx

1.บัญชี Mini

• 1.ใช้ยอดเงินฝากขั้นต่ำที่ 30 เหรียญ
• 2.ได้รับค่าสเปรดที่ระดับมาตรฐานลอยตัว
• 3.เลือกเลเวอเรจสูงสุดได้ที่ 1:500

ผู้ที่เริ่มต้นเทรด forex และยังไม่เคยเป็นสมาชิกกับโบรกเกอร์ที่ไหนมาก่อน แนะนำให้เปิดบัญชีประเภท Mini ไปก่อน เพราะเป็นบัญชีที่ใช้เงินทุนเริ่มต้นเพียง 30 เหรียญเท่านั้น คุณก็สามารถเทรดได้แล้ว และอีกประการหนึ่งคือ คุณจะได้ทำการฝึกการใช้โปรแกรม cTrader ด้วย

2.บัญชี Standard

• 1.ใช้ยอดเงินฝากขั้นต่ำที่ 1,000 เหรียญ
• 2.ได้รับค่าสเปรดที่ระดับมาตรฐานลอยตัว
• 3.เลือกเลเวอเรจสูงสุดได้ที่ 1:500
• 4.มีโอกาสได้รับค่า commission 10%
• อบรมฟรี! พร้อมรับ EA เทรดทำกำไร 100%

3.บัญชี VIP 

• 1.ใช้ยอดเงินฝากขั้นต่ำที่ 10,000 เหรียญ
• 2.ได้รับค่าสเปรดที่ระดับมาตรฐานลอยตัว
• 3.เลือกเลเวอเรจสูงสุดได้ที่ 1:200
• 4.มีโอกาสได้รับค่า commission 20%
• 5.ฝากเงินและถอนเงินเร็วกว่าใครๆ
• 6.รับสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมชิงรางวัลพิเศษมากมาย
• ไม่มี swap
• อบรมฟรี! พร้อมรับ EA เทรดทำกำไร 100%

เปิดบัญชี http://thedollarfx.com/refer/104118